ในโลกของการทำงาน “การมีทักษะทางสังคม” ถือเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะช่วยให้เราสามารถทำงานร่วมกับคนอื่น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะดีแค่ไหน หากสิ่งเหล่านี้เราสามารถปรับตัว และนำไปพัฒนาต่อยอดอีกได้ เพราะหากธุรกิจ หรือเพื่อนร่วมงานของคุณ ขาดทักษะในการสื่อสารทางอารมณ์ และไม่รู้จักการควบคุมตัวเอง เมื่อต้องทำงานร่วมกันกับผู้อื่น ก็อาจทำให้สถานการณ์ และสภาพเเวดล้อมของการทำงานกลับแย่ลงได้ บทความนี้ SPARK Factor จึงได้รวบรวมข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับ 5 𝗦𝗼𝗳𝘁 𝗦𝗸𝗶𝗹𝗹 ที่ธุรกิจควรรู้ เพื่อเสริมประสิทธิภาพของการทำงานให้ดียิ่งขึ้น มาฝากกัน
Soft Skill คืออะไร

Soft Skill ทักษะทางสังคม หรือ อุปนิสัยเพื่อปฏิสัมพันธ์อันดีกับผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็น การสื่อสาร บุคลิกภาพทัศนคติ ไหวพริบ กรอบความคิด (Mindset) ฯลฯ ที่มีความสำคัญ และจำเป็นอย่างมากสำหรับการทำงาน
ในปัจจุบัน เมื่อต้องใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่น หรือการทำงานเป็นทีม โดยสามารถขัดเกลา พัฒนาทักษะเหล่านี้ได้จากการแสวงหาความรู้ และประสบการณ์ในชีวิตประจำวัน
Soft Skill มีความสำคัญอย่างไรต่อธุรกิจ

รู้หรือไม่ ? จากผลสรุปรายงานข้อมูลเชิงลึกของ upskillist สถาบันการศึกษาออนไลน์ระดับโลก เกี่ยวกับ 𝗦𝗼𝗳𝘁 𝗦𝗸𝗶𝗹𝗹 และบทบาทสําคัญของพนักงานในสถานที่ทํางานพบว่า 62 % ของพนักงานรู้สึกไม่พร้อมในการจัดการต่อความขัดแย้งในที่ทำงาน ซึ่งแสดงให้เห็นว่า การมี Soft Skill ที่ดี จะช่วยให้การทำงานเป็นทีม มีความราบรื่นได้มากยิ่งขึ้น อีกทั้ง นอกจากจะช่วยทำให้เข้าใจตัวเอง และรู้สึกจัดการกับความรู้สึกต่าง ๆ และแสดงออกมาได้อย่างเหมาะสมแล้ว ยังช่วยสร้างบรรยากาศอันดีในการทำงาน และทำให้องค์กรเติบโตได้อย่างเข้มแข็งในอนาคตอีกด้วย
5 ทักษะของ Soft Skill ที่ดีควรมีอะไรบ้าง
1. Time Management (ทักษะการบริหารจัดการเวลา)

ในยุคที่ทุกอย่างเร่งรีบ การรู้จักวางแผนชีวิต และจัดเรียง Priority ได้อย่างเหมาะสม จะช่วยจัดสรรการทำงานให้สามารถบรรลุเสร็จสิ้นได้ตามระยะเวลาที่วางไว้ โดยอาจเริ่มต้นจากการมองภาพ รวมว่าในหนึ่งวันเราต้องทำอะไรบ้าง และลำดับความสำคัญ กำหนดวันส่งให้ชัดเจน สิ่งเหล่านี้จะเข้ามาช่วยลดปัญหาการทำงานซ้ำซ้อน ที่ช่วยให้เราได้มีเวลาว่างเอาไปใช้ประโยชน์ทำกิจวัตรอย่างอื่นได้
2. Adaptability (ทักษะการปรับตัว)

ความเปลี่ยนแปลง คือสิ่งที่ทุกคนต้องพบเจออยู่ตลอดเวลา ดังนั้น การมีความกล้าที่จะเผชิญกับอุปสรรค และรู้จักหมั่นสังเกตสิ่งรอบตัว หรือพร้อมเรียนรู้ เปิดใจรับสิ่งใหม่ จะช่วยให้เรามีทักษะไหวพริบที่ดีในการรับมือต่อสถานการณ์นั้น ๆ และเผชิญหน้ากับวิธีการทำงาน ผู้คน กฎเกณฑ์ ความล้มเหลว รวมถึงหน้าที่ความรับผิดชอบ ซึ่งจะช่วยให้เราได้พัฒนา เพื่อนำข้อผิดพลาดต่าง ๆ มาปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น
3. Creativity (ทักษะความคิดเชิงสร้างสรรค์)

ความครีเอทีฟ อีกหนึ่ง 𝗦𝗼𝗳𝘁 𝗦𝗸𝗶𝗹𝗹 ทักษะสำคัญ ที่ถึงแม้จะไม่มีการฝึกฝนหลักสูตรที่ตายตัว แต่ก็มักจะเกิดจากความช่างสังเกต และชอบคิดอะไรนอกกรอบ หรือรับฟังความคิดของผู้อื่น เช่น การอ่านหนังสือ การฟังเพลง การเล่นดนตรี การพูดคุย หรืองานศิลปะ เป็นต้น โดยการนำความรู้ที่ได้ มาประยุกต์ใช้ให้เกิดไอเดียใหม่ ๆ หรือจากความรู้เดิมที่มีอยู่ เพื่อนำมาสร้างสรรค์ และต่อยอดให้ดียิ่งขึ้น มีความน่าสนใจแก่ผู้ชม
4. Positive Attitude (ทักษะการมีทัศนคติเชิงบวก)

ถึงแม้เราจะต้องพบเจอในช่วงเวลาที่ยากลำบาก การมี 𝗦𝗼𝗳𝘁 𝗦𝗸𝗶𝗹𝗹 ทัศนคติเชิงบวก หรือ Positive Attitude อยู่กับตัว จะช่วยให้เรามีความสามารถในการปรับตัว และเห็นข้อดีของอุปสรรคอยู่ตลอดเวลา เพื่อนำมาเป็นบทเรียน และพัฒนาตัวเองให้ดีมากขึ้น ซึ่งทุกคนสามารถทำได้ โดยอาจจะลองเอาตัวเองไปอยู่ในสภาพแวดล้อมเชิงบวก, บันทึกสิ่งที่มีความสุขแต่ละวัน, ให้กำลังใจตัวเอง หรือมองความผิดพลาดเป็นการเรียนรู้สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้เราสามารถเติบโตได้อย่างมีคุณภาพ
5. Critical Thinking (ทักษะความคิดเชิงวิเคราะห์)

แม้ว่าในปัจจุบันการเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ จะสามารถทำได้ง่าย และรวดเร็วมากขึ้น แต่การที่ต้องทำงานกับข้อมูลที่มากเกินไป จนไม่สามารถเอามาจับต้นชนปลายได้ไม่ถูก อาจทำให้สิ่งที่กำลังจะทำอยู่ยากขึ้นได้ ดังนั้นการมี 𝗦𝗼𝗳𝘁 𝗦𝗸𝗶𝗹𝗹 ที่เรียกว่า Critical Thinking หรือทักษะความคิดเชิงวิเคราะห์ โดยรู้จักการจำแนกแจกแจงข้อมูล จับประเด็นเรียบเรียงข้อมูล และนำมาตีความจากการตั้งคำถามของสิ่งที่อยากรู้ออกมาเป็นเรื่องย่อย ๆ รวมไปถึงการปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนั้น ๆ ก็จะสามารถช่วยให้เราได้เข้าใจปัญหาของเหตุผลอันนำไปสู่คำตอบที่ถูกต้องเหมาะสมได้
สรุป
ปัจจุบันทุกธุรกิจต่างเริ่มให้ความสำคัญกับ Soft Skills กันมากขึ้น เพราะเป็นสิ่งเดียวที่เทคโนโลยีอัจฉริยะ (AI) ไม่สามารถทำได้ เมื่อต้องใช้ทักษะเชิงไหวพริบในการสื่อสาร เพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์ และการทำงานกับผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็น ทักษะการบริหารจัดการเวลา, การปรับตัว, ความคิดเชิงสร้างสรรค์, การมีทัศนคติเชิงบวก, และทักษะความคิดเชิงวิเคราะห์ เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ผู้คนในองค์กร เช่น ผู้บริหาร หัวหน้างาน พนักกงาน กลายเป็นทีมที่แข็งแกร่ง ทำให้ภาพลักษณ์ขององค์กรดูมีความมั่นคง และช่วยสร้างความสมดุลของการทำงานได้เป็นอย่างดี
ที่มา
สุดท้ายนี้หากคุณชอบคอนเทนต์ดีๆเกี่ยวกับการตลาดแบบนี้
คุณสามารถอ่านคอนเทนต์อื่นๆจากทาง Spark Factor ได้ที่นี่
หรือ หากคุณกำลังมองหา Digital Marketing Agency ที่สามารถ
ช่วยให้ แบรนด์ของคุณถูกสื่อสารไปหาลูกค้า และ เพื่อนำไปสู่
การสร้างยอดขายได้คุณสามารถติดต่อมาหาเราได้ที่นี่ Spark Factor